ในวันคริสต์มาสอีฟ หนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์ที่อาคารนากาโตมิ จอห์น แมคเคลนไปรอรับฮอลลี ภรรยาของเขาที่ท่าอากาศยานนานาชาติวอชิงตันดัลเลส ขณะอยู่ที่บาร์ของท่าอากาศยาน แมคเคลนสังเกตเห็นชายสองคนถือกระเป๋าและหนึ่งในนั้นพกปืน จึงตามสองคนนั้นไปจนถึงส่วนเก็บสัมภาระ แมคเคลนยิงต่อสู้กับอีกฝ่ายและฆ่าชายหนึ่งในสองคนนั้น ส่วนอีกคนหนีไปได้ หลังตรวจสอบประวัติชายที่ถูกฆ่า พบว่าเป็นทหารรับจ้างซึ่งเชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้ว แมคเคลนจึงนำเรื่องนี้ไปบอกสารวัตรลอเรนโซ ผู้บังคับการตำรวจท่าอากาศยาน แต่กลับถูกไล่ออกมา ผู้การสจ๊วต อดีตหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ และลูกน้องเข้ายึดโบสถ์ที่อยู่ใกล้ท่าอากาศยานและควบคุมระบบต่าง ๆ ของท่าอากาศยานทั้งหมด เขามีแผนจะช่วยเหลือนายพลเอสเปอรันซา จอมเผด็จการและนักค้ายาเสพติดที่ถูกส่งตัวมาดำเนินคดีในสหรัฐอเมริกา สจ๊วตขอเครื่องบินโบอิง 747 เพื่อใช้หลบหนีและเตือนท่าอากาศยานว่าอย่าพยายามแทรกแซง ในขณะเดียวกัน แมคเคลนรู้ว่าฮอลลีอยู่บนเครื่องบินลำหนึ่งที่บินวนอยู่เหนือกรุงวอชิงตัน ดี. ซี. และมีน้ำมันไม่พอที่จะบินไปลงที่อื่น แมคเคลนจึงร่วมมือกับมาร์วิน ภารโรงของท่าอากาศยาน เลสลี บาร์นส หัวหน้าฝ่ายคมนาคมของท่าอากาศยานนำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษไปที่ส่วนแอนเน็กซ์ สกายวอล์ก เพื่อกู้คืนระบบสื่อสารกับเครื่องบิน แต่ถูกลูกน้องของสจ๊วตลอบโจมตีจนหน่วยปฏิบัติการพิเศษถูกฆ่า แมคเคลนตามมาช่วยบาร์นสและฆ่าลูกน้องของสจ๊วต สจ๊วตจึงโต้กลับด้วยการทำให้เครื่องบินลำหนึ่งตก ทีมหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ นำโดยพันตรีแกรนต์ถูกเรียกให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ด้านแมคเคลนรู้ว่าเครื่องบินของเอสเปอรันซาลงจอดแล้วจากวิทยุสื่อสาร จึงรีบไปที่นั่น